สวัสดีผู้ที่รักและชื่นชอบในการใช้กระเป๋าผ้าจ่ายตลาดแทนถุงพลาสติกครับผมเองอยากจะถามทุกท่านครับว่าถุงผ้าหรือกระเป๋าผ้าที่ท่านใช้งานอยู่นั้นมีอยู่ด้วยกันกี่ใบครับ

สำหรับผมเองนั้นบอกเลยครับว่าเป็นคนที่บ้าเก็บสะสมกระเป๋าผ้ามากเรียกได้ว่ามีแถมจากผลิตภัณฑ์อะไรหรือมีขายที่งานไหนหากลองมีลวดลายสวยงามแล้วเป็นอันต้องเอาหมดครับซึ่งผมเองเคยนับดูคร่าวๆ แล้วพบว่ามีกระเป๋าผ้าไม่ต่ำว่า 100 ใบกันเลยทีเดียว
แต่ถึงจะมีมากมายขนาดนั้นเชื่อไหมครับว่าเมื่อใช้งานจริงผมนั้นกลับใช้กระเป๋าผ้าอยู่เพียงแค่ใบเดียวเท่านั้นเพราะเนื่องจากว่าใบนี้ผมนั้นใช้มันมานานตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยจวบจนกระทั่งทุกวันนี้ก็ยังคงใช้อยู่
สาเหตุที่ผมใช้แต่กระเป๋าผ้าใบนี้ใบเดียวเท่านั้นมีอยู่ด้วยกันสองประการครับประการแรกก็คือผมรู้สึกผูกพันกับมันมากครับเพราะเป็นของที่ใช้กันมานานแสนนานและอีกประการหนึ่งก็คือผมอยากให้กระเป๋าผ้าที่ใช้มันชำรุดหรือพังเป็นใบๆ ไปครับไม่อยากใช้ไปทั่วหลายใบแต่ถึงกระนั้นก็ยังมีแอบเปลี่ยนบ้างเป็นบางครั้งบางคราวตามอารมณ์ครับ 5555
ดังนั้นผมเองจึงอยากจะบอกผู้ที่มีกระเป๋าผ้าหลายใบว่าแม้ว่าเราจะมีเยอะก็ตามแต่พอเวลาเราใช้งานจริงก็มีเพียงแค่ใบเดียวครับดังนั้นถ้าไม่ได้รักมันถึงขั้นอยากจะเก็บสะสมแล้วล่ะก็ไม่ต้องเอาไว้มากหรอกครับแค่ใบสองใบสำหรับใช้งานก็พอแล้วครับ

แม้ว่าบางคนจะเข้าใจว่า ของพรีเมี่ยม นั้นหมายถึงของแถม สินค้าแจกฟรีที่ทำขึ้นมาสำรับสินค้านั้นๆ โดยเฉพาะ ก็อาจไม่ใช้คำตอบที่ผิด แต่ก็ไม่ใช่คำตอบที่ถูกไปเสียหมด เพราะนอกจากของแถมแล้ว ของพรีเมี่ยมยังหมายถึง สินค้าชิ้นพิเศษหรือสินค้าที่มีจำนวนจำกัดได้อีกด้วย

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเราได้ไปเดินตามห้างสรรพสินค้า เราก็จะสามารถพบเห็นของพรีเมี่ยมได้อย่างมากมาย ซึ่งบางร้านต่างๆ ก็จะมีการจัดโซนสินค้าของพรีเมี่ยม ทำให้ดูหรูหรา และติดราคาที่แสนแพงเอาไว้ และด้วยกลยุทธ์เช่นนี้นี่เองที่ทำให้สินค้าชิ้นนั้นดูหรูหราขึ้นมาในทันที เป็นเสมือนของชิ้นพิเศษที่ใครๆ ก็ควรจะได้จับต้องเป็นเจ้าของ แต่กลยุทธ์ทางการค้าที่ไว้ใช้เรียกลูกค้ายังไม่หมดเพียงเท่านี้ ทางร้านจะติดตั้งป้ายลดราคาเข้าไปด้วย ไม่ว่าจะเป็น ลด 20% ลด 50% เป็นต้น ด้วยป้ายลดราคานี้ ของพรีเมี่ยมจะขายออกได้อย่างรวดเร็ว และมีบางคนที่อาจสงสัยว่า ทั้งๆ สินค้าเหมือนกับร้านอื่นๆ หนำซ้ำยังแพงกว่า แต่ทำไมถึงขายออกได้หมดไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งการขายนี้ต้องขึ้นอยู่กับหลายๆ ปัจจัย ที่ไม่ว่าจะเป็น บรรยากาศในร้าน ทำเล การจัดวางสินค้าและที่สำคัญคือราคา เพราะมนุษย์ส่วนใหญ่จะเกิดปฏิกิริยากับสินค้าที่มีราคาสูงอยู่เสมอ โดยจะคิดว่าสินค้าที่มีราคาสูงนั้น ต้องเป็นสินค้าที่มีคุณภาพดี ทำจากวัสดุแพงๆ ในทางกลับกันหากเรานำสินค้าราคาแพงไปตั้งในร้านที่มีบรรยากาศหม่นหมอง ลูกค้าก็จะมองว่าร้านนั้นตั้งราคาเกินจริง
ดังนั้นการตั้งราคาสินค้าหรือของพรีเมี่ยมต่างๆ นั้น ควรทำให้อยู่ในความพอดี ไม่แพงจนเกินไปและยังต้องจัดวางสินค้าให้อยู่มุมที่น่าดึงดูดลูกค้าได้อีกด้วย เท่านี้ของพรีเมี่ยมก็จะดูดีขึ้นไปอีกระดับหนึ่งเลยทีเดียว